1. ค้นหาคีย์เวิร์ดที่สำคัญ
ผู้ขายสามารถศึกษาการเลือกคีย์เวิร์ดที่สำคัญ จากบริษัท third party ของAmazon เช่น Helium 10, Jungle Scout หรือ Keyword Planner ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขายเลือกตั้งคีย์เวิร์ดได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น
2. คีย์เวิร์ดที่แข่งขันน้อย
เนื่องจาก ผลลัพธ์การค้นหาที่ปรากฏขึ้นมีความเป็นไปได้ว่า มีตัวเลือกน้อย หรือมีความเกี่ยวข้องกับสินค้าเราแต่มีรีวิวที่ไม่ดี ดังนั้น เมื่อสินค้าเราไปอยู่ท่ามกลางสินค้าเหล่านั้น ก็จะมีโอกาสการขายได้มากขึ้นและเพิ่มโอกาสให้สินค้าเราไปอยู่หน้าแรกได้
3. เลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องที่สุด
ผู้ขายต้องตั้งคีย์เวิร์ดที่มีความเป็นไปได้และเกี่ยวข้องกับสินค้าเรามากที่สุด ซึ่งควรมีประมาณ 5-10 คีย์เวิร์ด โดยชื่อสินค้า, Bullet Points, รายละเอียดสินค้าควรมีคีย์เวิร์ดที่เราตั้งไว้
การลงสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ (Listing Optimization)
4. ชื่อสินค้า (Product Title)
ผู้ขายควรเรียงคีย์เวิร์ดที่สำคัญไว้ที่คำแรกๆ โดยเฉพาะ 5 คำแรกของชื่อสินค้า เพื่อให้เกิดผลดีกับกระบวนการจัดลำดับของผลลัพธ์
ผู้ขายควรเขียนให้ครบทั้ง 5 ข้อ bullet points ซึ่งควรมีข้อละ 150-200 ตัวอักษร และสร้างหัวเรื่องในแต่ละหัวข้อแล้วจึงขยายความต่อ
6. รายละเอียดสินค้า (Product Description)
รายละเอียดสินค้าต้องไม่เกิน 2,000 ตัวอักษร หรือ ประมาณ 300 คำ ซึ่งในส่วนนี้ผู้ขายต้องหาจุดที่นำเสนอสินค้าเพื่อปิดการขาย และโน้มน้าวใจให้ลูกค้ากดซื้อสินค้า